ทำไมต้อง Dreamdesk

บทสัมภาษณ์จากคุณ ทัพไทย ฤทธาพรม Co-founder & CEO, JYT E-Commerce

จุดเริ่มต้นของ Dreamdesk

ต้องท้าวความย้อนกลับไปสักประมาณ 6 ปีที่แล้ว ในสมัยที่ผมเริ่มทำงานที่แรกในบริษัท E-commerce ยักษ์ใหญ่สีส้ม Shopee ที่เพิ่งเริ่มเข้ามาบุกตลาดเมืองไทย นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จักกับคำว่า "Ergonomic"

เหตุการณ์เริ่มต้นโมเม้นต์เล็กๆที่โต๊ะทำงานของผม ที่พี่ Mangement level ท่านหนึ่งได้เดินมาบอกผมให้นั่งทำงานหลังตรง ไม่งั้นอีกสัก 1 ปีจะปวดหลังแน่ๆ ต้องยอมรับว่าผมยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้เท่าไร จึงไม่ได้ศึกษาการนั่งทำงานแบบที่ถูกต้องตามหลัก Ergonomic แค่พยายามปรับท่านั่งให้หลังตรงตลอดและคิดว่าเก้าอี้แข็งๆก็คงดีกับหลังและการทำงาน จนเวลาผ่านไป 1 ปีอาการปวดหลังของผมก็เริ่มเกิดขึ้นจริงและทางออกเดียวที่ผมคิดออกก็การเริ่มไปนวดและก็เริ่มกลายเป็นกิจวัตรไป

จากนั้นผมได้มีโอกาสได้ย้ายไปทำงานในบริษัท E-commerce ระดับโลกอย่าง Amazon และได้บินไปทำงานที่ Singapore นี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมสนใจ “Ergonomic” มากขึ้น เพราะที่นี่เก้าอี้ทุกตัวคือ Herman Miller แบรนด์ Ergonomic ระดับโลก และต้องยอมรับจริงๆว่ามันช่วยให้ผมทำงานได้อย่างมีความสุขขึ้น โดยเห็นความแตกต่างชัดเจนใน 2 อาทิตย์ เพราะอาการปวดหลังของผมลดลงมาก จนไม่ต้องไปนวดอีกต่อไป

นอกจากนั้นที่ออฟฟิศ Amazon ใน Singapore ยังมีตู้กดอุปกรณ์ลักษณะเหมือตู้กดน้ำให้พนักงานกดเลือกอุปกรณ์ Ergonomic มาใช้ได้แบบฟรีๆ และยังมีอีเมลมาสอบถามพนักงานอยู่เสมอว่ามีปัญหาการทำงานไหนบ้าง มีเจ็บหรือปวดส่วนไหนบ้างรึเปล่า โดยจะมีลิงค์บทความสอนท่าทางการทำงานที่ถูกต้องตามหลัก Ergonomic หรือสามารถรีเควสขออุปกรณ์การทำงานเพิ่มก็ได้

จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมสนใจอยากเริ่มสร้างแบรนด์และขายสินค้าของตัวเองที่มีความเป็น Ergonomic ที่ช่วยเพิ่ม Productivity ในการทำงานขึ้น

ทำไมถึงเป็นชื่อ Dreamdesk

จริงๆแล้ว Dreamdesk เริ่มต้นคิดจากชื่อของสินค้า ‘Ergdesk’ ย่อมาจาก Ergonomic Desk แต่ผมคิดว่ามันอ่านยากและอาจจะไม่เข้าใจ เลยคิดไปถึงคำว่า ‘การจัดโต๊ะทำงานในฝัน’ หรือ ‘Dream desk set up’ ที่เราสามารถออกแบบโต๊ะทำงานในฝันตามแบบที่ชอบ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่โต๊ะแต่ครอบคลุมถึง เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่างๆ และอยากให้ลูกค้ามองว่าเราไม่ได้เป็นแบรนด์ที่หรูหราจนเกินเอื้อมเหมือนแบรนด์ Ergonomic เจ้าอื่นๆ จึงใช้คำว่า Dream ที่เป็นคำที่แทนว่าใครๆก็มีความฝัน จึงกลายมาเป็นชื่อ Dreamdesk โต๊ะทำงานในฝันที่ใครๆก็มีได้

Dreamdesk และการเพิ่ม Productivity ในการทำงานให้สูงที่สุด

สินค้าตัวแรกของ Dreamdesk นั้นเริ่มจากเก้าอี้ Ergonomic แต่จุดเปลี่ยนจริงๆคือการที่เราเริ่มขยายประเภทสินค้าและนำโต๊ะปรับระดับไฟฟ้ามาขายสู่ตลาด ซึ่งโต๊ะทำงานปรับระดับไฟฟ้าคืออีกสิ่งที่ช่วยให้ผมทำงานที่ Amazon ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่คิดงานไม่ออก ก็จะชอบเดินไปเดินมา แต่โต๊ะปรับระดับไฟฟ้าช่วยให้สามารถทำงานได้ทันทีแค่เพียงจากท่านั่งเป็นท่ายืน ทำให้อยากทำงานมากขึ้น และเสียงจากลูกค้าที่ซื้อโต๊ะและเก้าอี้ของเราก็เป็นแบบเดียวกันว่าสามารถสร้างบรรยากาศการทำงานที่บ้านได้ดีขึ้น ทำงานได้นานขึ้น และได้คุณภาพของที่งานมากขึ้น 

นอกจากนั้นเพื่อเพิ่ม Productivity ในการทำงานให้สูงที่สุด เราออกแบบและอ้างอิงทุกฟังก์ชันการใช้งานการแบรนด์ Ergonomic ระดับโลก และได้รับการรับรองจากมาตราฐาน BIFMA สหรัฐอเมริกา แต่นำมาขายในราคาที่ถูกกว่าถึง 5 เท่าเพื่อให้ทุกคนสามารถจัดโต๊ะทำงานในฝันได้จริง ซึ่งจะไม่เหมือนกับร้านที่อาจจะขายสินค้าในราหลักพันแต่เน้นฟังก์ชันความสบายแต่ไม่ได้ถูกต้องตามหลัก Ergonomic จริงๆ

ความตั้งใจของ Dreamdesk คือการที่สามารถทำให้ทุกคนมีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในทุกครั้งที่เริ่มทำงาน จากการมีโต๊ะ เก้าอี้และอุปกรณ์การทำงานที่ Erognomic 100% เพราะเราอยู่กับโต๊ะทำงานทุกวันเฉลี่ย 8 ชม.หรือมากกว่า ดังนั้นการลงทุนให้กับการจัดโต๊ะทำงานจึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่าและไม่สิ้นเปลืองเลย เทียบกับผลลัพธ์ที่ได้กลับมา จากการที่เราสามารถทำงานได้นานขึ้นเพียงวันละ 30 - 60 นาทีต่อวัน ซึ่งหากตีมูลค่าของงานเป็นเงินเราก็อาจจะได้ทุนค่าจัดโต๊ะทำงานคืนภายในระยะเวลาในเพียงไม่กี่เดือนเท่าเองนั้น